‘‘มาตาเปตฺติภโร อาสิ, กสฺสปสฺส อุปาสโก;
วิรโต เมถุนา ธมฺมา, พฺรหฺมจารี นิรามิโส;
อหุวา เม สคาเมยฺโย, อหุวา เม ปุเร สขา’’ติฯ
‘‘เอวเมตํ ปุราณานํ, สหายานํ อหุ สงฺคโม;
อุภินฺนํ ภาวิตตฺตานํ, สรีรนฺติมธาริน’’นฺติฯ
5. ชนฺตุสุตฺตํ
[106] เอวํ เม สุตํ – เอกํ สมยํ สมฺพหุลา ภิกฺขู, โกสเลสุ วิหรนฺติ หิมวนฺตปสฺเส อรญฺญกุฏิกาย อุทฺธตา อุนฺนฬา จปลา มุขรา วิกิณฺณวาจา มุฏฺฐสฺสติโน อสมฺปชานา อสมาหิตา วิพฺภนฺตจิตฺตา ปากตินฺทฺริยาฯ
อถ โข ชนฺตุ เทวปุตฺโต ตทหุโปสเถ ปนฺนรเส เยน เต ภิกฺขู เตนุปสงฺกมิ; อุปสงฺกมิตฺวา เต ภิกฺขู คาถาหิ อชฺฌภาสิ –
‘‘สุขชีวิโน ปุเร อาสุํ, ภิกฺขู โคตมสาวกา;
อนิจฺฉา ปิณฺฑเมสนา [ปิณฺฑเมสานา (?)], อนิจฺฉา สยนาสนํ;
โลเก อนิจฺจตํ ญตฺวา, ทุกฺขสฺสนฺตํ อกํสุ เตฯ
‘‘ทุปฺโปสํ กตฺวา อตฺตานํ, คาเม คามณิกา วิย;
ภุตฺวา ภุตฺวา นิปชฺชนฺติ, ปราคาเรสุ มุจฺฉิตาฯ
‘‘สงฺฆสฺส อญฺชลิํ กตฺวา, อิเธกจฺเจ วทามหํ [วนฺทามหํ (ก.)];
อปวิทฺธา อนาถา เต, ยถา เปตา ตเถว เต [ตเถว จ (สี.)]ฯ
‘‘เย โข ปมตฺตา วิหรนฺติ, เต เม สนฺธาย ภาสิตํ;
เย อปฺปมตฺตา วิหรนฺติ, นโม เตสํ กโรมห’’นฺติฯ
6. โรหิตสฺสสุตฺตํ
[107] สาวตฺถินิทานํฯ เอกมนฺตํ ฐิโต โข โรหิตสฺโส เทวปุตฺโต ภควนฺตํ เอตทโวจ – ‘‘ยตฺถ นุ โข, ภนฺเต, น ชายติ น ชียติ น มียติ [น ชิยฺยติ น มิยฺยติ (สฺยา. กํ. ก.)] น จวติ น อุปปชฺชติ, สกฺกา นุ โข โส, ภนฺเต, คมเนน โลกสฺส อนฺโต ญาตุํ วา ทฏฺฐุํ วา ปาปุณิตุํ วา’’ติ? ‘‘ยตฺถ โข, อาวุโส, น ชายติ น ชียติ น มียติ น จวติ น อุปปชฺชติ, นาหํ ตํ คมเนน โลกสฺส อนฺตํ ญาเตยฺยํ ทฏฺเฐยฺยํ ปตฺเตยฺยนฺติ วทามี’’ติฯ
‘‘อจฺฉริยํ, ภนฺเต, อพฺภุตํ, ภนฺเต! ยาวสุภาสิตมิทํ, ภนฺเต, ภควตา – ‘ยตฺถ โข, อาวุโส, น ชายติ น ชียติ น มียติ น จวติ น อุปปชฺชติ, นาหํ ตํ คมเนน โลกสฺส อนฺตํ ญาเตยฺยํ ทฏฺเฐยฺยํ ปตฺเตยฺยนฺติ วทามี’ติฯ
‘‘ภูตปุพฺพาหํ, ภนฺเต, โรหิตสฺโส นาม อิสิ อโหสิํ โภชปุตฺโต อิทฺธิมา เวหาสงฺคโมฯ ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, เอวรูโป ชโว อโหสิ; เสยฺยถาปิ นาม ทฬฺหธมฺมา [ทฬฺหธมฺโม (สพฺพตฺถ) ฏีกา จ โมคฺคลฺลานพฺยากรณํ จ โอโลเกตพฺพํ] ธนุคฺคโห สุสิกฺขิโต กตหตฺโถ กตโยคฺโค กตูปาสโน ลหุเกน อสเนน อปฺปกสิเรเนว ติริยํ ตาลจฺฉายํ อติปาเตยฺยฯ ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, เอวรูโป ปทวีติหาโร อโหสิ; เสยฺยถาปิ นาม ปุรตฺถิมา สมุทฺทา ปจฺฉิโม สมุทฺโทฯ ตสฺส มยฺหํ, ภนฺเต, เอวรูปํ อิจฺฉาคตํ อุปฺปชฺชิ – ‘อหํ คมเนน โลกสฺส อนฺตํ ปาปุณิสฺสามี’ติฯ โส ขฺวาหํ, ภนฺเต, เอวรูเปน ชเวน สมนฺนาคโต เอวรูเปน จ ปทวีติหาเรน อญฺญตฺเรว อสิต-ปีต-ขายิต-สายิตา อญฺญตฺร อุจฺจาร-ปสฺสาวกมฺมา อญฺญตฺร นิทฺทากิลมถปฏิวิโนทนา วสฺสสตายุโก วสฺสสตชีวี วสฺสสตํ คนฺตฺวา อปฺปตฺวาว โลกสฺส อนฺตํ อนฺตราว กาลงฺกโตฯ
‘‘อจฺฉริยํ, ภนฺเต, อพฺภุตํ, ภนฺเต! ยาวสุภาสิตมิทํ, ภนฺเต, ภควตา – ‘ยตฺถ โข, อาวุโส, น ชายติ น ชียติ น มียติ น จวติ น อุปปชฺชติ, นาหํ ตํ คมเนน โลกสฺส อนฺตํ ญาเตยฺยํ ทฏฺเฐยฺยํ ปตฺเตยฺยนฺติ วทามี’’’ติฯ
‘‘น โข ปนาหํ, อาวุโส, อปฺปตฺวา โลกสฺส อนฺตํ ทุกฺขสฺส อนฺตกิริยํ วทามิฯ อปิ จ ขฺวาหํ, อาวุโส, อิมสฺมิํเยว พฺยามมตฺเต กเฬวเร สสญฺญิมฺหิ สมนเก โลกญฺจ ปญฺญเปมิ โลกสมุทยญฺจ โลกนิโรธญฺจ โลกนิโรธคามินิญฺจ ปฏิปทนฺติฯ
‘‘คมเนน น ปตฺตพฺโพ, โลกสฺสนฺโต กุทาจนํ;
น จ อปฺปตฺวา โลกนฺตํ, ทุกฺขา อตฺถิ ปโมจนํฯ